แม้ยักษ์ใหญ่อย่างซิสโก้เองจะมีผลิตภัณฑ์เน็ตเวิร์กครอบคลุมครบทุกแบบที่องค์กรทั้งหลายต้องการ แต่ก็ยังต้องเผชิญกับกลุ่มคู่แข่งที่มีศักยภาพสูง ที่ยากจะล้ม จะเบียดตกเวทีออกไปได้ ทั้งนี้ทางสำนักข่าว NetworkWorld ได้รวบรวมรายชื่อคู่แข่งซิสโก้ทั้ง 10 รายที่ควรจับตามองไว้ดังต่อไปนี้
ซึ่งทาง NetworkWorld ได้ให้ข้อสังเกตที่พบระหว่างการรวบรวมรายชื่อคู่แข่งของซิสโก้เหล่านี้ไว้ว่า การแข่งขันที่พบจะค่อนข้างดุเดือดเป็นพิเศษระหว่างผู้เล่นรายใหญ่ด้วยกัน อย่างคู่แข่งที่เป็นยักษ์ใหญ่ด้านเน็ตเวิร์กเกือบทั้งหมดต่างปรับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีให้เข้ากับ หรือแข่งกับของซิสโก้แบบจงใจ แบบหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทางซิสโก้จะนิ่งเฉยๆ รอชาวบ้านมาไล่ตาม โดยซิสโก้ได้ขยายและปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เครือข่ายซีรี่ย์หลักของตัวเองใหม่ไม่ว่าจะเป็นตระกูล Catalyst, Nexus, และ Silicon One รวมทั้งหันมาให้ความสำคัญมากขึ้นในด้านระบบความปลอดภัย และซอฟต์แวร์ด้านเครือข่าย
ยิ่งทางซิสโก้ออกมาประกาศด้วยว่าตนเองต้องการจะก้าวเป็นผู้นำด้านบริการผ่านคลาวด์หรือ Network-as-a-Service ทำให้ตลาดส่วนใหญ่ยังมองว่าซิสโก้เองมีอิทธิพลสูง และเป็นเป้าหมายที่เอื้อมถึงได้ยากสำหรับคู่แข่งส่วนใหญ่ จึงน่าสนใจเป็นอย่างมากที่จะมาดูกันว่ามีคู่แข่งรายไหนกล้าขึ้นมากระตุกหนวดเสือกันบ้าง
1. Arista Networks
ดำเนินงานโดยอดีตผู้บริหารซิสโก้อย่าง Jayshree Ullal ขึ้นอันดับเป็นคู่แข่งบนชนไหล่กับซิสโก้ติดต่อกันมาหลายปี ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีดาต้าเซ็นเตอร์มาครอบคลุมส่วนของ Campus และ Edge พร้อมทั้งซื้อกิจการสำคัญอย่าง Mojo และ Big Switch ด้วย
2. Checkpoint Software
หลังจากทางซิสโก้หันมาเน้นผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยมากขึ้น ก็กลายเป็นสร้างความกดดันให้แก่คู่แข่งเดิมในตลาดอย่าง Check Point และพรรคพวกอย่าง Palo Alto และ Fortinet อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัว Check Point เองก็เข้าตลาดมาตั้งแต่ปี 1993 จับมือกับพันธมิตรสำคัญหลายเจ้าโดยเฉพาะผู้จำหน่าย SD-WAN อย่าง Aryaka
3. Dell
ที่ปัจจุบันเป็นเจ้าของ VMware ด้วย ก้าวมาเป็นคู่แข่งรายสำคัญจากผลิตภัณฑ์ด้านการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นมากมาย รวมทั้งมี VMware เป็นอาวุธตะลุยตลาดชั้นดี โดยทาง Gartner ระบุว่ามีลูกค้าที่เป็นดาต้าเซ็นเตอร์อยู่มากถึง 20,000 ราย มีผลิตภัณฑ์เด่นๆ ด้านนี้อย่างเช่นตัว PowerSwitch
4. Extreme Networks
อีกหนึ่งคู่แข่งที่เพิ่งเบียดขึ้นมากระทบไหล่ซิสโก้ในช่วงนี้คือ Extreme Networks ที่กำลังฉลองครบรอบ 25 ปีไป ด้วยผลิตภัณฑ์แพลตฟอร์มจัดการหลักอย่าง ExtremeCloud IQ (XIQ) ที่มีอัตราการสมัครสมาชิกเติบโตสูงถึง 122% ในช่วงปีที่ผ่านมา อีกทั้งกำลังลงทุนกับเทคโนโลยี AI/ML และคลาวด์ด้วย
5. Juniper Networks
ถือเป็นคู่แข่งซิสโก้ที่ขับเคี่ยวกันมายาวนานมาก แต่มาโดดเด่นเป็นพิเศษจากการซื้อกิจการ Apstra และ 128 Technology เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งตัวระบบปฏิบัติการของ Apstra ทำให้ Juniper สามารถลุยตลาดเน็ตเวิร์กแบบ Intent-Based ได้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะที่ซอฟต์แวร์ Session Smart ของ 128 ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายของ SD-WAN และ WAN ลงได้มาก
6. HPE/Aruba
เมื่อปีที่แล้วเป็นก้าวใหญ่ครั้งสำคัญของ HPE/Aruba ในตลาด SD-WAN ด้วยการซื้อผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เน็ตเวิร์ก Silver Peak ด้วยมูลค่ากว่า 925 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอ้างถึงผลการวิจัยของทาง 650 Group ว่ามูลค่าตลาด SD-WAN จะเติบโตจาก 2.3 พันล้านดอลลาร์ฯ ขึ้นเป็น 4.9 พันล้านดอลลาร์ฯ ภายในปี 2024
7. Huawei
Huawei มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านอุปกรณ์เครือข่ายที่แข็งแกร่ง เป็นคู่แข่งคนสำคัญของซิสโก้โดยเฉพาะตลาดนอกสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมาก็โดนผลกระทบทางการเมืองพอสมควร โดยทาง FCC ก็ยังเคลื่อนไหวต่อเนื่องในการแบน Huawei ไม่ให้นำมาใช้ในระบบการสื่อสารโทรคมนาคมในสหรัฐฯ แต่ก็ดูไม่กระทบกับรายได้เท่าไร
8. NetGear
แม้ตอนนี้ NetGear ดูจะไปอยู่ระดับเดียวกันกับ Adtran, D-Link, Dell, และแบรนด์อื่นที่ใกล้เคียง แต่ก็ถือว่าอยู่ในเวทีตลาดเน็ตเวิร์กมาตั้งแต่ปี 1996 โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย ธุรกิจรีเทล และเครือข่ายตามบ้าน และท้าชนผลิตภัณฑ์อย่างซีรี่ย์ Cisco Meraki ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะช่วงที่คน WFH กันแบบนี้
9. Nvidia
อยู่ดีๆ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งของซิสโก้ได้ เนื่องจากไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นได้หันมาบุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง โดยเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว Nvidia ได้ประกาศเป้าหมายที่จะมุ่งสู่เทคโนโลยีประมวลผลกำลังสูง ด้วยการพัฒนานวัตกรรมใหม่ การซื้อกิจการใหญ่ (อย่าง Mellanox, Cumulus, และ Arm) รวมทั้งสร้างพันธมิตรในตลาดที่แข็งแกร่ง
10. VMware
VMware และซิสโก้ต่างเป็นคู่แข่งด้าน SD-WAN ที่ขับเคี่ยวกันมาอย่างยาวนาน และมีแนวโน้มต่อเนื่องไปอีกไกลจากตลาดแบบ Secure Access Service รวมทั้งเทรนด์การผูกระบบขององค์กรเข้ากับมัลติคลาวด์ โดยเฉพาะการที่ทั้งสองบริษัททำข้อตกลงร่วมมือกับผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำอย่าง AWS เหมือนกันด้วย
ที่มา : Networkworld