แน่นอนว่าปัจจุบันอะไรต่อมิอะไรก็ก้าวสู่การมีคำว่าสมาร์ท หรืออัจฉริยะต่อท้ายกันหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ในวงการโรงพยาบาล ซึ่งสิ่งที่ทำให้โรงพยาบาลดูอัจฉริยะขึ้นมาคงหนีไม่พ้นอุปกรณ์ IoT จำนวนมหาศาลที่คอยควบคุมดูแลความเป็นไปภายใน
โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่ไว้ตรวจจับเหตุการณ์ความปลอดภัยที่เป็นข่าวกันทุกวัน ทั้งแก๊งลักเด็ก และการทำร้ายหมอและเจ้าหน้าที่เป็นต้น แต่การระดมติดกล้องเยอะๆ ก็หนีไม่พ้นค่าใช้จ่ายทั้งการลงทุนและการบำรุงรักษาที่มากตามไปด้วย
ทาง A&S International โดยผู้เชี่ยวชาญ William Pao ได้เสนอให้โรงพยาบาลใช้ระบบกล้องวงจรปิด และระบบควบคุมการเข้าถึงตำแหน่งต่างๆ ให้มีการทำงานผสานร่วมกัน เช่น ให้สามารถตรวจจับการพยายามเข้าถึงตำแหน่งที่ไม่ได้รับอนุญาต แล้วล็อกการเข้าถึงทันทีก่อนจะเกิดความเสียหาย
อ่านข่าว : Dell จับมือ Intel ต่อยอดโครงการ IoT กับระบบ Smart Healthcare
นอกจากนี้อุปกรณ์ IoT อื่นอย่าง RFID ก็ยังช่วยตรวจจับการเข้าถึงที่ไม่ถูกต้องได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป็นกุญแจเปิดเข้าสู่พื้นที่ที่มีสิทธิ์เข้าถึง หรือตรวจจับถ้ามีการนำทารกที่ติดแท๊กออกนอกบริเวณที่ได้รับอนุญาต ให้รีบล็อกประตูก่อนนำออกไปได้ หรือแม้แต่แท๊กข้อมือของผู้ป่วยสำหรับอำนวยความสะดกในการเข้าถึงส่วนต่างๆ ในโรงพยาบาลที่แตกต่างกัน เป็นต้น
นอกจากนี้ การใช้อุปกรณ์ IoT อย่างตัวเซ็นเซอร์ ก็สามารถนำมาใช้ประหยัดพลังงานในโรงพยาบาลได้อย่างน่าแปลกใจด้วย เช่น ตรวจว่าถ้าในห้องผ่าตัดไม่มีการทำงานอยู่ ก็ให้ลดกำลังของระบบระบายอากาศเหลือโหลดต่ำสุด หรือแม้แต่การปรับความสว่างของระบบไฟส่องสว่างให้สอดคล้องกับความสว่างภายนอกอาคาร หรือตรวจจับการเข้ามาของคนในห้องเพื่อเพิ่มความสว่างอัตโนมัติ เป็นต้น
ที่มา : https://www.asmag.com/showpost/22516.aspx