นักวิจัยจาก IOActive ได้เปิดเผยว่า โครงการต่างๆ ที่พยายามให้หุ่นยนต์มีชีวิตเหมือนมนุษย์จริงนั้น ต่างนำมาซึ่งช่องโหว่สำคัญที่เปิดให้ผู้ไม่ประสงค์ดีใช้หุ่นยนต์สร้างความเสียหายต่างๆ ได้
จากความก้าวหน้าในการพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีสมองกลหรือ AI กำลังมาแรงมาก อย่าง Ross ที่ IBM พัฒนาออกมาเมื่อปีที่ผ่านมา ที่ถือเป็นทนายความแบบ AI ตัวแรก ซึ่งกำลังผ่านการพิจารณาให้อนุญาตนำมาใช้ในการดูแลคดีเกี่ยวกับการล้มละลายและปรับโครงสร้างหนี้ หรือที่ทางรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพัฒนาหุ่นยนต์มาใช้ในการทหาร รวมทั้งยกระดับศักยภาพหุ่นยนต์ที่มีด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้น พบว่าอาชญากรไซเบอร์หลายเจ้าต่างเฝ้ามองหาโอกาสในการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของหุ่นยนต์เหล่านี้อย่างใกล้ชิด
ทาง IOActive ได้ทดสอบหุ่นยนต์หลายรุ่นจากหลายผู้ผลิต ไม่ว่าจะเป็น NAO และ Pepper ของ SoftBank Robotics, Alpha 1S และ Alpha 2 จาก UBTECH Robotics, ROBOTIS OP2 และ THORMANG3 จาก ROBOTIS, UR3, UR5 และ UR10 จาก Universal Robots, Baxter และ Sawyer จาก Rethink Robotics, และหุ่นยนต์จาก Asratec Corp ที่ใช้เทคโนโลยี V-Sido
ซึ่งทางนักวิจัยค้นพบปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันตัวตน, ระบบการสื่อสารที่ไม่ปลอดภัย, การเข้ารหัสที่อ่อนแอ, ช่องโหว่ด้านความเป็นส่วนตัว, การตั้งค่าโดยดีฟอลต์ที่อ่อนแอ, รวมทั้งช่องโหว่สารพัดที่มีอยู่บนเฟรมเวิร์กและไลบรารีสำหรับหุ่นยนต์แบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งหมายความว่าแฮ็กเกอร์สามารถเจาะระบบหุ่นยนต์เหล่านี้เพื่อสืบความเคลื่อนไหวของผู้คนตามบ้านและออฟฟิศ หรือแม้แต่สร้างความเสียหายทางกายภาพ และพบว่าเป็นช่องทางสำคัญที่กลุ่มสายลับที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจะใช้เป็นเครื่องมือสืบราชการลับของประเทศศัตรู
ที่มา : https://www.hackread.com/robots-can-be-hacked-exploited-for-malicious-purposes/