หน้าแรก Advertorial เสริมสุข เสริมศักยภาพธุรกิจด้วยคลาวด์ คอมพิวติ้ง วางใจในโซลูชั่น และบริการจาก Leap Solutions Asia

เสริมสุข เสริมศักยภาพธุรกิจด้วยคลาวด์ คอมพิวติ้ง วางใจในโซลูชั่น และบริการจาก Leap Solutions Asia

แบ่งปัน
thaibev
คุณธีรพันธุ์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้อำนวยการสำนักสารสนเทศ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือที่หลายคน มักคุ้นกันในชื่อ “ไทยเบฟ” เป็นบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม โดยมีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีความหลากหลาย ทั้งสุรา, เบียร์ และเครื่องดื่มประเภท Non-Alcohol เช่น เครื่องดื่มตราช้าง และกลุ่มชาพร้อมดื่ม Oishi เป็นต้น ทางด้านบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) นั้น เป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจของ ไทยเบฟ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมแบรนด์ “est” รวมถึงน้ำดื่ม “คริสตัล” และเครื่องดื่มอื่นๆ อีกมากมาย ที่มุ่งเน้นการขายเข้าสู่ตลาดกลุ่มร้านอาหาร และร้านค้าปลีกต่างๆ ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่

ความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอที

เช่นเดียวกับหลายๆ องค์กรที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่องการขยายระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีให้รองรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ใช้งาน ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีมีความซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงความจำเป็นในการหาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อมาช่วยในการดูแลรักษาและพัฒนาระบบไอที ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ที่มักจะคาดหวังประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา

คุณธีรพันธุ์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้อำนวยการสำนักสารสนเทศ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารระดับสูงที่ดูแลภาพรวมทางด้านไอทีของ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ และบริษัทในเครือกล่าวว่า “ในส่วนของไทยเบฟ นั้น มีระบบไอทีที่หลากหลาย บางระบบจะดูแลเอง ส่วนบางระบบจะย้ายไปอยู่บนคลาวด์ ทั้งนี้เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างคล่องตัว”

โดยปัจจุบันแอพพลิเคชันของไทยเบฟ ที่แตกต่างและสร้างความเป็นผู้นำทางการแข่งขันในตลาด (ตัวอย่างเช่น แอพพลิเคชั่นด้านการขนส่ง และการวิเคราะห์ข้อมูล) ไทยเบฟได้พัฒนาและดำเนินการโดยอาศัยทีมงานไอทีของบริษัทเอง ในขณะที่แอพพลิเคชั่น บางส่วนได้มีการบริหารจัดการโดยไปใช้งานบนระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง เพื่อความคล่องตัวต่อการทำงาน อย่างในกรณีแอพพลิเคชันด้านธุรกิจ ไทยเบฟ เลือกโฮสต์ระบบ SAP กับศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ของ T.C.C. Technology Co., Ltd. โดยมี Leap Solutions Asia เป็นผู้ให้บริการดูแลระบบคลาวด์ ซึ่งไทยเบฟมองว่า เป็นผู้ให้บริการที่มีความสามารถและความเชี่ยวชาญสูง สามารถช่วยดูแลและให้คำปรึกษากับทางบริษัทได้เป็นอย่างดี ทำให้เจ้าหน้าที่ไอทีของไทยเบฟสามารถลดภาระเรื่อง การดูแลงานด้าน Operation และสามารถสร้างสรรค์หรือพัฒนานวัตกรรมอื่นๆ ได้มากขึ้น

ในส่วนของ บริษัท เสริมสุข นั้น ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ในการใช้งานคลาวด์ของบริษัทแม่ จึงได้ตัดสินใจ หันมาใช้บริการแอพพลิเคชั่น SAP ในลักษณะ Application As A Service Cloud เช่นเดียวกัน โดยยังคงไว้วางใจเลือกทีมงานของ Leap Solutions Asia เป็นผู้ดูแลระบบให้ และนอกจากนี้ ยังมีแผนการที่จะนำเอาเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดย้ายขึ้นไปไว้บนคลาวด์ในลักษณะ Hosted Private Cloud อีกด้วย

สำหรับโมเดล Hosted Private Cloud (Leap GIO Private) ของ Leap Solutions Asia นั้น มีข้อดีตรงที่ผู้ใช้งานได้รับสิทธิ์เสมือนมี Physical Server ส่วนตัว โดยเจ้าหน้าที่ไอทีของ บริษัท เสริมสุข สามารถดำเนินการแบ่งเป็นเวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์เพื่อใช้ในแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้เองตามความต้องการ แต่มีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนต่อ Physical Server โดยไม่ขึ้นกับจำนวนเวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์ที่สร้างขึ้นมา และสัญญาในการใช้งานขั้นต่ำเพียงแค่ 1 เดือน ซึ่งช่วยให้บริษัท เสริมสุข สามารถบริหารจัดการต้นทุนของระบบ IT ได้เป็นอย่างดี เพื่อรองรับการการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

คุณนันทกฤษณ์ วัฒนเลี้ยงใจ ผู้จัดการแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Leap Solutions Asia มีบริการ Public Cloud (Leap GIO Public) ที่รองรับการปรับเพิ่มและลดสัดส่วนทรัพยากรของระบบคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่มีปัญหาเรื่องทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ เช่น หน่วยความจำ หรือฮาร์ดดิสก์ไม่เพียงพอ โดยปกติต้องเข้ากระบวนการจัดซื้อเพิ่มเติมซึ่งจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการดังกล่าวค่อนข้างนาน แต่ถ้าเป็นระบบคลาวด์ เราสามารถเพิ่มหรือลดหน่วยความจำได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลารอนาน ซึ่งช่วยให้เห็นประสิทธิภาพที่หน้างานได้อย่างชัดเจน” และยังกล่าวเสริมว่า การมีผู้ให้บริการมืออาชีพ เข้ามาช่วยดูแลในส่วนนี้ ทำให้ลดภาระของฝ่ายไอทีไปได้อย่างมาก

นอกจากนี้ บริษัท เสริมสุข ยังพิจารณาเรื่องของการย้ายสำนักงานในอนาคต ทำให้มีโจทย์ใหญ่ทางด้านไอที นั่นคือ ถ้าย้ายสำนักงาน บริษัทต้องลงทุนสร้าง Datacenter ใหม่ ต้องซื้อ Rack Server เพิ่ม เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด อาจจะมีต้นทุนที่สูงมาก การเปลี่ยนมาใช้ระบบระบบคลาวด์ นั้น ทำให้สามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น และเมื่อพิจารณาเพิ่มเติมในเรื่องการจัดการภัยพิบัติ (Disaster Management) ตัวอย่างเหตุการณ์อุทกภัยใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา พบว่าการที่เราเอาทรัพยากรทั้งหมดมาไว้กับตนเอง เมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ อย่างน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทีมงานด้านไอทีจะไม่สามารถเข้าไปในอาคารเพื่อที่จัดการกับระบบภายในได้เลย

ในทางกลับกัน หากนำระบบไปวางไว้ในสถานที่ ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่า อย่างในกรณีการย้ายเซิร์ฟเวอร์ไปบนระบบคลาวด์ของทาง Leap Solutions Asia ที่ตั้งอยู่ในศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ต่างๆ ของ T.C.C. Technology Co., Ltd นั้น เมื่อเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เจ้าหน้าที่ไอทียังสามารถที่จะทำงานได้ และองค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Management) ประกอบกับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ ได้มีการเตรียมความพร้อมในระบบเซิร์ฟเวอร์เพื่อรองรับ เหตุการณ์ดังกล่าวไว้เป็นอย่างดี

หลักเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกโซลูชั่นและบริการคลาวด์

ในการตัดสินใจเลือกโซลูชั่นคลาวด์จากผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่งนั้น ทั้งสองท่านตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งแรกที่พิจารณา คือการแก้ไขปัญหา เวลาที่มีปัญหาเกิดขึ้น จะพิจารณาว่าผู้ให้บริการสามารถประสานงาน และเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วแค่ไหน จากประสบการณ์ Leap Solutions Asia สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อบริษัทมีระบบที่ Critical เช่น ระบบ SAP บนคลาวด์

คุณธีรพันธุ์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้อำนวยการสำนักสารสนเทศ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (ขวา) และ คุณนันทกฤษณ์ วัฒนเลี้ยงใจ ผู้จัดการแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน)

ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้งาน และบริการคลาวด์

คุณนันทกฤษณ์ กล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้งานโซลูชั่นและบริการ จาก Leap Solutions Asia ไว้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้บริษัทเสริมสุข ประหยัดเวลาในการดำเนินงาน ทำให้สามารถนำคนไอทีที่มีอยู่ไปพัฒนางานทางด้านอื่นได้ ในขณะเดียวกัน เรื่องของการบริการ ที่บริษัท เสริมสุขได้รับจากผู้ให้บริการค่อนข้างรวดเร็ว และสามารถตอบโจทย์ได้มากกว่าเดิม เนื่องจากทีมไอทีไม่ต้องดูแลระบบ แบบ 24×7 เหมือนในอดีตอีกต่อไป เพราะทาง Leap Solutions Asia มีคนคอยดูแลระบบ ให้บริษัทเสริมสุขตลอดเวลา ถ้าระบบมีปัญหา ผู้ให้บริการจะส่งรายงานมาให้ทีมไอทีของ บริษัท เสริมสุขทันที ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

คุณธีรพันธุ์กล่าวเสริมว่า เมื่อมีการ Outsource งานบางอย่างที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัทออกไป จะทำให้คนในทีมไอทีสามารถไปโฟกัสในเรื่องอื่นได้ โดยอาจจะเน้นการเพิ่มความรู้ และทักษะอื่นๆ เสริมเข้าไป พร้อมทั้งยังสามารถไปพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้มากขึ้น

แผนการลงทุนในอนาคต

ในแง่ของการลงทุนในอนาคตนั้น บริษัท เสริมสุข จะยึดตามแผนแม่บทด้านไอทีของกลุ่มบริษัทไทยเบฟที่ได้วางไว้ โดยหลายๆ โครงการจะเป็นโครงการร่วมที่เข้าไปทำร่วมกับบริษัทต่างๆ ในเครือของไทยเบฟ ซึ่งคุณธีรพันธุ์กล่าวว่า “ในเชิงกลยุทธ์ของการลงทุน เช่นส่วนของการใช้บริการคลาวด์ แอพพลิเคชั่น ต้องดูว่าซอฟต์แวร์ตัวนั้นๆ มีความสำคัญและ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ มากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญกับบริษัทมากๆ เราเลือกที่พัฒนากันเองภายในบริษัท ดูแลกันเอง แต่ถ้าหากเป็นแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญระดับรองลงมา เช่น ระบบอีเมล์ หรือระบบอื่นๆ เราสามารถจะ Outsource ออกไปใช้คลาวด์แอพพลิเคชั่นได้ โดยการลงทุนในประเด็นเหล่านี้ จะทำให้ช่วยประหยัดเวลาและสร้างความคุ้มค่าได้มากขึ้น”

Leap Solutions Asia (LSA) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง T.C.C. Technology Co., Ltd (TCCtech) ผู้นำการให้บริการศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ และ Internet Initiative Japan Inc. (IIJ) หนึ่งในผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และคลาวด์สำหรับองค์กรรายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

สำหรับท่านใดที่สนใจรายละเอียดผลิตภัณฑ์ของ Leap Solutions Asia (LSA) สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ www.leapsolutions.co.th หรือติดต่อได้ที่ Sale team: sales@leapsolutions.co.th