เทรนด์ไมโครรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 ผลประกอบการของไตรมาสนี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถทำกำไรได้ต่อเนื่องกันเป็นครั้งที่ 73 แล้ว
บริษัท เทรนด์ไมโคร อินคอร์ปอเรท ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2560 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 โดยในไตรมาสที่สองนี้ บริษัท เทรนด์ไมโคร มียอดขายรวมสุทธิที่ระดับ 35,388 ล้านเยน (หรือ 318 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ 111.12 เยน = 1 ดอลลารำสหรัฐฯ) ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานของไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 7,565 ล้านเยน (หรือ 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และรายได้สุทธิอยู่ที่ 5,944 ล้านเยน (หรือ 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
“วันนาคราย” (Wannacry) และ “เพตยา” (PETYA) สร้างความตื่นตัวอย่างมากในด้านการรักษาความปลอดภัย และยังได้ย้ำเตือนองค์กรต่างๆ ว่าการป้องกันที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับองค์กรธุรกิจ” นางอีวา เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) บริษัท เทรนด์ ไมโคร ได้กล่าวต่อว่า “การดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ภารกิจของเรา คือการได้เข้าไปเสริมความแข็งแกร่งให้กับลูกค้า ให้มีความเข้าใจ และได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา”
นางอีวา ยังกล่าวอีกว่า “นวัตกรรมที่ได้รับการสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องของบริษัท เทรนด์ไมโคร ที่ครอบคลุมทั้งระบบปกป้องเครื่องลูกข่าย เน็ตเวิร์ค ศูนย์คอมพิวเตอร์ส่วนกลาง และการปกป้องบนคลาวด์ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพิ่มเติม นอกเหนือจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมของเรา นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวกองทุนร่วมทุนขององค์กรเป็นครั้งแรก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต โดยบริษัทได้ให้เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือเท่ากับ สามหมื่นห้าพันล้านบาทโดยประมาณ) ให้กับบริษัท สตาร์ท อัพ ที่มีบทบาทสำคัญในกลุ่มธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างเช่น อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือ ไอโอที (Internet of Things: IoT)
อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน บริษัทไม่ได้ดำเนินการปรับแก้ผลประกอบการรวมที่คาดไว้สำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 (เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560) ซึ่งจากข้อมูลที่บริษัทมีอยู่ในขณะนี้ ยอดขายรวมสุทธิของปีที่สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 คาดว่าจะอยู่ที่ 147,300 ล้านเยน (หรือ 1,339 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยพิจารณาจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 110 เยน = 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ) รายได้จาการดำเนินงานและรายได้สุทธิคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 37,500 ล้านเยน (หรือ 340 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และ 24,600 ล้านเยน (หรือ 223 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ตามลำดับ
ทั้งนี้ ตัวเลขอัตราการเติบโตจะคำนวณจากผลประกอบการที่เป็นเงินเยน ดังนั้นจึงอาจมีความแตกต่างกันบางอย่างเมื่อมีการเปรียบเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อันเนื่องมาจากความผัวผวนของอัตราการแปลงสกุลเงิน
ที่มา : Trend Micro