จากการสำรวจของ Trend Micro นั้น พบว่า ครัวเรือนต่างๆ กว่า 30 เปอร์เซ็นต์ มีสมาร์ทโฟนมากกว่า 3 เครื่องขึ้นไป และกว่าหนึ่งในสามมีแท็บเล็ตตั้งแต่สองเครื่อง โดยเฉพาะมีครัวเรือนเกือบครึ่งหนึ่งที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไป ซึ่งทั้งหมดนั้นเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ และเสี่ยงต่อที่เด็กในบ้านจะใช้งาน ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า มากกว่าหนึ่งในสามของเด็กในสหรัฐฯ ได้เคยเข้าถึงคอนเท็นต์ที่ไม่เหมาะสมบนออนไลน์ รวมทั้งกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ที่ตกเป็นเหยื่อไซเบอร์บูลลี่หรือการกลั่นแกล้งออนไลน์ด้วย
Trend Micro จึงย้ำถึงความสำคัญในการพูดคุยกับเด็กในบ้าน ซึ่งควรครอบคลุมถึงหัวข้อต่างๆ ดังนี้:
– มัลแวร์ และข้อมูลที่ไม่ดีต่างๆ โดยอธิบายบุตรหลานเกี่ยวกับอันตรายจากการคลิกลิงค์ หรือเปิดไฟล์แนบโดยไม่ระวัง โดยเฉพาะการคลิกลิงค์ในข้อความที่ส่งผ่านสังคมออนไลน์ แม้จะมาจากคนที่ได้ชื่อว่า “เพื่อน” ก็ตาม
– เนื้อหาบนแอพและเว็บต่างๆ แน่นอนว่าผู้ปกครองควรติดตั้งตัวกรองหน้าเว็บไม่ให้ลูกหลานเข้าถึงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ รวมทั้งตั้งรหัสผ่านเพื่อควบคุมการดาวน์โหลดแอพต่างๆ ด้วย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องอธิบายเหตุผลว่าทำไมต้องทำแบบนี้
– โฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ที่มักจะมาพร้อมมัลแวร์ที่จ้องขโมยข้อมูลเหยื่อที่หน้ามืดตามัว สอนเด็กให้รู้จักสังเกตถ้าข้อเสนอใดที่เข้ามาดูดีเกินกว่าที่จะเป็นความจริง
– การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ตรวจสอบและตั้งค่าความเป็นส่วนตัวทั้งบนอุปกรณ์, บราวเซอร์, บนแต่ละไซต์และแอพต่างๆ โดยอธิบายสมาชิกในครอบครัวร่วมกันเพื่อสอนคุณค่าของความเป็นส่วนตัว
– อธิบายกฎความจริงว่าโลกออนไลน์ไม่มีอะไรที่เป็นส่วนตัว สำคัญที่สุดที่บุตรหลานต้องคิดหลายครั้งก่อนจะโพสหรือแชร์ และไม่ควรโพสอะไรบนโลกไซเบอร์ที่เป็นการระบายหรือเป็นสิ่งที่ไม่กล้าพูดต่อหน้าคนอื่น
ทั้งนี้ Trend Micro ได้ริเริ่มโครงการ Internet Safety for Kids & Families เพื่อสนับสนุนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ ดังกล่าว ซึ่งเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://internetsafety.trendmicro.com/